ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

REVIEW 2023: ขอตั้งชื่อปีนี้ว่า "น้อยแต่มาก ช้าแต่พร้อม"

สวัสดีผุ้อ่านทุกท่าน ทั้งที่หลงเข้ามา หรือ เจอลิงค์นี้จากที่ไหน หลังจากห่างหายกันไป 2 ปี ปีนี้ผมได้กลับมาเขียนแล้วเลยขอรวบยอด 2 ปีนี้ในบทความเดียวนี้เลย อย่างที่ตั้งชื่อ blog นี้ผมอยากตั้งชื่อสองปีนี้ว่า "น้อยแต่มาก ช้าแต่พร้อม เล็งและเด็ดขาด" จากสิ่งที่เจอ และได้เรียนรู้ในปีนี้ หลายอย่างทำให้เข้าใจความจริงมากขึ้น โตมากขึ้นและ มีการวางแผนมากขึ้น


การงาน

- 2 ปีที่ผ่านมานี้ผมได้มีโอกาสได้เข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่ต่างชาติที่เปิดรับการทำงานแบบ Remote ในไทย(สัญญาเป็นต่างชาติ) ผมเริ่มไต่เต้าจาก developer ธรรมจนได้เป็น lead developer ได้ภายในปีนี้ ต้องบอกว่า ได้เรียนรู้อะไรมากจริงๆ ทั้งเรื่องการบริหารทีม จิตใจของคน วัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละชาติ รวมไปจนถึงการวางแผนการทำงานแบบ remote ที่จะไม่ได้พบเจอหน้ากันตามปกติ และ timezone ก็อาจจะไม่ตรงกันอีกในบางทีม ในช่วงแรกต้องบอกว่าเป็นช่วงชีวิตที่เครียดมากๆจริงๆ แต่ก็ได้เรียนรู้หลายอย่างทั้ง hard และ soft skill การได้เป็น lead ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเอง และการบริหาร งาน และ จิตใจของคน รวมไปถึงเรื่องการเมืองซึ่งเป็นเรื่องปกติในทุกๆวงการ

- ช่วงปลายปีนี้ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในทีมส่งผลกระทบทั้งทีม ก็คือโดนยกเข่ง ที่ทำให้ผมต้องออกหางานใหม่ ช่วงเวลาที่ได้ออออกมาหางานใหม่เป็นช่วงที่ได้เรียนรุ้ตัวเอง และได้ลด ego ของตัวเอง และมองภาพตลาดแรงงานตามความจริงมากขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าผมจะมองไม่เห็นภาพนี้เลยถ้าไม่ได้ออกมา ผมเลยถือว่าเหตุการณ์ใหญ่ครั้งนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป ข้อดีที่ทำให้เราเติบโต และ ตอนนี้รู้ตัวเองแล้วว่าออกมาอยู่เฉยๆนิ่งๆไม่ได้ เมื่อก่อนเคยมีความคิดอยากออกมาพักสักช่วงหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้มีโอกาสลองอยู่เฉยๆ และก็ทำให้เข้าใจว่าเราอยู่เฉยๆไม่ได้จริงๆ จะมีความรู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองลดลง ซึ่งสุดท้ายก็จะหาอะไรทำอยู่ดี ส่วนข้อเสียก็น่าจะเป็นเรื่องจิตใจ เหตุการณ์นี้ทำให้ ความเข้าใจในชีวิตเปลี่ยนไปหลายอย่าง งานมั่งคงไม่มีอยู่จริง และ คนเราควรมีรายได้หลายทาง (ที่ไม่ได้ฉีกกันเกินไป)

- ช่วงปลายปีก็มีความโชคดี ที่ทำให้ผมได้กลับไปทำงานที่เดิม เหตุการณ์ความบังเอิญหลายๆอย่างในช่วงสิ้นปีนี้ ทำให้ผมแอบคิดอยู่ช่วงนึงเลยนะว่า หรือว่าทุกๆอย่างมันมี step ที่ถูกออกแบบมาแล้ว การกลับมาครั้งนี้เหมือนได้กลับมา set zero ใหม่ แต่ก็เป็นบทเรียนให้ชีวิตว่า ชีวิตคนเรามีขึ้นก็มีลง เพราะฉะนั้น ทุกขณะชีวิตไม่ว่า จะเป็นช่วงที่ก้าวหน้าที่สุดก็ให้เตรียมใจเสมอกับขาลงของชีวิต ผมเป็นคนโชคดีที่ทุกครั้งที่เจอเรื่องหนักๆ ผมก็จะกลับมาได้ทุกครั้ง และการกลับมาทุกครั้งก็แข็งแกร่งกว่าเดิม ผมมองว่าการกลับมาทุกครั้งมักจะเป็นการเพิ่มแรงส่งให้กับการกระโดดครั้งใหม่ ที่ต้องการทั้งประสบการณ์ และ แรงใจ ในการกระโดดไปอีกขั้นของชีวิต

- ทีมงานนอกปีนี้ผมได้ช่วยทีมทำงานเสร็จไปหนึ่งงาน อย่างอื่นๆค่อนข้างคงที่เพราะแต่ละคนก็มีสิ่งอื่นที่ตัวเองไป focus มากกว่า แต่ปีหน้าจะเป็นปีที่ผมประเมินตัวเองว่าพร้อมที่จะเปิดรับโอกาสใหม่ๆและเต็มที่กับมันมาขึ้น เพราะ ประสบการณ์ที่ผมสั่งสมมาตอนนี้ผมคิดว่าเพียงพอแล้ว

- เรื่องธุรกิจที่บ้าน ปีนี้เกิดเรื่องขึ้นหลายเรื่องจริงๆ ไม่อยากจะโทษว่าเป็นเพราะสถานการณ์การเมืองทั้งหมดแต่ก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ปีนี้เป็นปีที่มีทั้งความหวัง และ ความผิดหวัง ในปีเดียวกัน แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะรอ และวางแผนระยะยาว

ในเรื่องของการงาน ผมขอสรุปว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ "น้อยแต่มาก ช้าแต่พร้อม เล็งและเด็ดขาด" การทำงาน ออกแรงให้น้อยแต่ให้ได้ผลลัพธ์สูง เดินอย่างช้าๆให้วางแผนดีๆ ทำงานอย่างฉลาด เอาร่างกายและเวลาเข้าแลกให้น้อยลง มองหาโอกาส และ เริ่มใช้ทรัพยากรอื่นที่เรามี นอกจากเวลา และ แรงบ้าง มองโลกให้กว้างขึ้นเปิดรับความเห็นหลากหลาย และ เด็ดขาดให้มากขึ้น อะไรที่เราคิดดีแล้วก็ให้เชื่อมั่น ความสำเร็จเป็นของคนที่มั่นคงและมีวินัย 

สุขภาพ

- ตามปีแล้ว จริงๆปีนี้เป็นปีชง แต่ก็ขอบคุณที่ไม่ได้ทำให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆที่เกิดกับตัวและคนรอบๆตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จริงๆด้านสุขภาพปีนี้คือ เราใช้ร่างกาย และ เวลา เพื่อแลกเงินกลับมาเหมือนเคยไม่ได้แล้ว ร่างกายตอนใกล้ 30 รู้สึกได้ว่าเริ่มถอยหลังลง หน้าเริ่มมีริ้วรอย น้ำหนักขึ้นง่ายลดยาก นอกดึกติดๆกันหลายๆวันไม่ได้แล้ว กาแฟเริ่มไม่ช่วยอะไรเท่าไร ทุกสัญญานจากร่างกายเหมือนกำลังจะบอกเราว่า ทำงานให้ฉลาดขึ้นได้แล้ว วางแผนให้มากขึ้น ให้เงินให้เป็น ลงทุนให้เป็น และกล้าเสี่ยงให้มากขึ้น

- ปีนี้ได้กลับมาลดน้ำหนัก และวิ่งจริงจังอยุ่ช่วงหนึ่ง รู้สึกร่างกายตอนนั้นมันดีขึ้นจริงๆ แต่ช่วงหลังๆก็เริ่มเพลาๆลงเพราะ มีเรื่องหลายๆอย่างเข้ามา แต่ปีหน้าสัญญาว่าจะกลับไปวิ่งอีกครั้ง และมีวินัยมากขึ้นให้ได้

- เรื่องอาหารปีนี้ เริ่มกินตามใจปากน้อยลง เพราะการกินเป็นสิ่งสำคัญ ที่นำพาโรคมาได้ รู้สึกว่าระบบย่อยอาหารไม่ได้ทำงานดีเหมือนก่อนหน้านี้ และกินอาหารดึกมากไม่ได้แล้ว เพราะจะนอนไม่หลับ และจะมีอาการโรคกระเพาะ แต่ก็ได้เริ่มทำการ fasting อยุ่ช่วงนึง แต่สุดท้านก็เลิกไป จะพยายามกลับมาทำให้สำเร็จให้ได้นะในปีหน้า 

- สุขภาพจิตใจ ใจดีกับตัวเองมากขึ้น พักผ่อนเป็นมากขึ้น มีเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างการจดจ่องานให้เสร็จ และการออกไปพักผ่อนแล้วค่อยกลับมาทำต่อ อย่างหลังทำงานเสร็จได้ไวกว่า และมีประสิทธืภาพกว่าพอสมควร เรื่องการคิดมาก ยังเป็นคนคิดมากเหมือน และ ยังกดดันตัวเองเหมือนเดิมแต่ปีนี้น้อยลงพอสมควร เพราะเข้าใจชีวิตมากขึ้น คนเราทำให้ดีที่สุดและหาจังหวะโอกาสที่จะ shoot ดีกว่ามาเครียดโดยที่ไม่มีผลดีอะไร คนเรามีจังหวะชีวิตขึ้นลงจงเตรียมพร้อมเมื่อคลื่นของคุณมาถึง

ความสัมพันธ์ และ ชีวิต

- ปีนี้เป็นปีที่ความสัมพันธ์พัฒนาก้าวกระโดดมากๆ จากที่ไม่รู้จักกับญาติพี่น้องฝั่งแฟนเลย ปีนี้ก็ได้เข้าไปรุ้จัก ไปเที่ยวด้วยกัน และทำกิจกรรมร่วมกัน ปีนี้ถือว่าเรื่องความสัมพันธ์ยืนหนึ่งเลย ได้เข้าใจกันและกันมากขึ้น ได้เจอปัญหาต่างๆร่วมกันมากขึ้น หลายๆอย่างทำให้มั่นใจว่าคนนี้แหละที่จะอยู่กับเราไปจนแก่ จริงๆแล้วความสัมพันธ์เหมือนการวิ่งทางไกล เราต้องหาคู่ที่จะช่วยกันประคับประครองให้เราเดินต่อไปได้ คนเรามีช่วงอ่อนแอ ช่วงที่แข็มแข็ง บางเรื่องที่อ่อนแอ บางเรื่องก็แข็มแข็งการมีคู่ชีวิตก็เพื่อเติบเต็มกันและกัน 

- ปีนีเป็นปีที่มีการพัฒนา skill ด้านอื่นๆนอกจากกงานหลายทางมาก เริ่มมีการวางแผนครอบครัว การคุยเรื่องเงินหมุนต่างๆในชีวิต การวางแผนการเงินเพื่อซื้อ อสังหา และ ปัจจัย4 อื่นๆ มีการคุยเรืองการซื้อบ้าน และได้มีโอกาสเข้าไปทำ process จนเกือบจะได้บ้าน แต่ผมยกเลิกก่อนด้วยเหตุผลเรื่องความพร้อมทั้งความมั่นคงในงาน และ การเงิน รวมถึงการแบกภาระหนี้ ซึ่งต้องขออภัยคนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ที่ผมยกเลิกในวินาทีสุดท้าย โชคดีที่ทุกอย่างยังทันเวลา เหตุการณ์ครั้งนี้สอนบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ ให้เราเป็นคนเด็ดขาด ตกลงคือตกลง ไม่ก็คือไม่ อย่าปล่อยลากยาวจนคนอื่นได้รับผลกระทบ การถอยมาครั้งนี้เพื่อกลับมาตั้งหลัก และวางแผนการเงินใหม่หมด ตอนนี้มีเป้าหมายแล้ว มีความรู้แล้ว เมื่อผมพร้อมอีกครั้ง รอบนี้เราจะคิดมาถี่ถ้วนดีแล้วจริงๆ ทุกอย่างมีเวลาของมัน เราจะผลัดวันประกันพรุ่งไม่ได้แล้ว รอบนี้ได้โอกาสให้ถอยกลับมาตั้งตัว รอบหน้าเราต้องพร้อมจริงๆ 

- การเงินมั่นคงมากขึ้นแล้วพอสมควร ต้องขอบคุณบริษัทปัจจุบันที่ทำอยู่ถึงแม้ว่าหลายๆอย่างมีทั้งด้านดีและร้าย แต่อย่างน้อยบริษัทนี้ก็ทำให้ผมได้มีเงินก้อน ที่พร้อมจะทำไปต่อยอดสิ่งต่างๆ จำนวนที่ได้พูดตรงๆว่าน่าจะหาได้ยากในบริษัทในไทยจะให้ได้ หลายคนบอกไว้ว่าเงินก้อนใหญ่ก้อนแรกเป็นสิ่งสำคัญในการต่อยอด เพราะถ้าไม่มีมันหรือมีไม่ถึง มันก็ยากที่จะทำอะไรที่ก็มีต้นทุนไปหมด ซึ่งต่อจากนี้จะมีการวางแผนมากขึ้น และพยายามหาโอกาสอื่นๆอยุ่เสมอๆ เพราะอะไรๆก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น 

- เรื่องหลายๆเรื่องในชีวิตของครอบครัวก็ solved ในปีนี้เยอะมากๆ มองย้อนกลับไปก็ขอบคุณตัวเองที่ผ่านมันมาได้ เรื่องที่น่าห่วงหลายๆเรื่องก็​ solved เกือบหมดแล้ว ทำประกันให้พ่อแม่แล้ว และต่อจากนี้ก็จะพร้อมลุยกับบทต่อไปของชีวิตแล้ว

สุดท้ายนี้ ก็ขอเขียนถึงเป้าหมายในปีหน้าในแบบสรุปๆ 
- ปีหน้าจะเป็นปีที่ต้องวางแผนหนักๆ เพราะก็เริ่มมีรายจ่ายหลายๆอย่างในการสร้างครอบครัว และ การลงทุน ต้องตั้งใจทำงาน และหาโอกาสเข้ามามากขึ้น 

- ปีหน้าตั้งเป้าว่า skill อะไรที่ยังทำไม่เป็น ก็ไปฝึกให้เป็นให้ได้ทั้ง skill งาน และ skill การใช้ชีวิต เราเลื่อนออกไปเรื่อยๆไม่ได้แล้ว เพราะทุกอย่างมีเวลา มี deadline ของมันต้องวางแผนอย่างจริงจัง

- ปีหน้าทุกคนก็แก่กันไปอีกปีแล้ว สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญแม้จะมีประกัน แต่ก็ใช้ขีวิตอย่างประมาทไม่ได้ ปีหน้าจะออกกำลังกายแบบมีวินัยมากขึ้น กำลังจะเริ่มจัดฟันใสแล้ว เป้าหมายในอนาคตอาจจะต้องเจอคนมากขึ้น บุคลิกจะเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น 

- เรื่องการงาน ปีหน้าขอให้เป็นปีที่มีความกล้า แน่วแน่และเด็ดเดี่ยว เรารอไม่ได้อีกแล้ว ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ หรือช้า เราก็ควรต้องก้าวเดินต่อไป อย่าเอาชีวิตตัวเองไปขึ้นกับใคร และก็อย่าคาดหวังให้ใครเป็นแบบที่เราคิดเช่นกัน แต่ละคนมี priority ต่างกัน อย่าทุ่มทางใดทั้งหมด ให้มีทางเลือกให้ตัวเองไว้ด้วย

สุดท้ายท้ายสุด ขอบคุณตัวเองมากๆที่ผ่านหลายๆเรื่องมาในปีนี้ ปีหน้าอะไรที่ดีก็ขอให้คงไว้ อะไรที่ควรแก้ก็ขอให้แก้ไขได้ให้หมด สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น